ธุดงค์อินเดีย 2568

ธุดงค์จาริกแสวงบุญอินเดีย25ม.ค.-13ก.พ.เดินทางขึ้นไปพะเยา ร่วมงานสมโภชน์พระแม่โสมาที่วัดม่อนพญานาคได้ร่วมบวชนาคแก้ว20ตน ได้ที่พักบนเขาเดินจงกรมภาวนา2-4ช.มแล้วเข้าที่พัก

เช้า26ม.ค ร่วมงานสืบชะตาเจ้าคุณพระศินีนาท 16.นร่วมพิธีสมโภชน์พระแม่โสมาหล่อด้วยสัมฤ พระญานพระจิตญานพระแม่มาสถิต เสร็จงานสรงน้ำไปนั่งภาวนาบนเขา นั่งภาวนา2-3ช.ม มีนิมิตเกี่ยวกับท่านพระครูไท และภูมิเล่าถวายหลายเรื่อง เช้าวันใหม่แต่เช้าขึ้นไปนั่งภาวนาบนเขาอีกรอบๆนี้ยิ่งภาวนาดูดดื่มพิจารณาธรรมได้หลายเรื่อง พักภาวนาอยู่4-5วัน ได้เวลาเข้าก.ทไปกิจไหว้พระเขี้ยวแก้ว ขณะเข้าไปถึงกระแสพระเขี้ยวแก้วแผ่รัศมีเข้ามาในจิตเย็นวาบเข้าขั้วหัวใจ แดดร้อนแต่ ไม่รู้สึกร้อนเลย เข้านั่งภาวนา1ช.มสงบนิ่งดิ่งแนบแน่นมาก และไปไหว้พระแก้วมรกตนั่งสมาธิภาวนาอธิฐานอยู่1ช.ม ออกมากลับที่พักเตรียมตัวเดินทางสู่ประเทศอินเดียเครื่องออกราว11.45.ลงที่พุทธคยาถึง15.20.น จัดการผ่านด่านต.มเอากระเป๋าครบทุกคนออกจากสนามบินหัวหน้าทัวร์มารับขึ้นไปที่พักได้ที่แล้ว เดินทางไปกราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ เดินเวียนเทียน3รอบแล้วเข้ากราบสักการะพระพุทธเมตตาในองค์พระเจดีย์ ได้ห่มผ้าพระพุทธเมตตาด้วย ท่านอาจารย์ชาวอินเดีย ได้ถวายผ้าจีวรที่ห่มพระพุทธเมตตาด้วย ในขณะที่ท่านกำลังห่มความปราบปลื้มใจที่ได้ถวายผ้าจีวรพระพุทธเมตตาอิ่มอกอิ่มใจมากปราโมทย์ใจเป็นอย่างยิ่งยังประทับใจไม่รู้ลืมลืน แล้วออกมานั่งสมาธิต้นนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ใบโพธิ์ร่วงสองครั้งเก็บได้4-5ใบมีเณรธิเบธเก็บเอาไปก่อนเราได้แค่2ใบแล้วกำหนดจิตนั่งภาวนาสงบดำดิ่งลึกดื่มด่ำในสมาธิ นั่งราว1-30.ช.ม น.ค่อยถอยจึตออกมาขณะที่ถิยจิตออกมาเลยกราบทูลถามพระพุทธองค์เรื่องการปฏิบัติและคณะโยมที่มาด้วย พระพุทธองค์ตรัสให้พากันไปให้ครบสังเวชสนียสถานทั้ง4ก่อนและจะได้คำตอบ และกราบพระพุทธองค์แล้วแผ่เมตตากราบลาเข้าที่พัก เช้าวันที่3ไปบ้านนางสุชาดา ไปต้นนิโคธต้นไทร

บกนาใหญ่ที่นางสุชาดาถวายข้าวมุทุปายาส และเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสวยวิมุติสุขในสัปดาห์ที่5 จึงเป็นสถานที่พิเศษมากพาคณะโยมนั่งสมาธิภาวนาอยู่ราวชั่วโมงมีนิตเกี่ยวกับพระพุทธองค์ด้วย

บ่าย2โมงเข้ากราบสัการะพระศรีมหาโพธิ์ออกรอบคราวนี้เดินจงกรมแล้วนั่งสมาธินานเกือบ2ช.มเข้าสมาธิละเอียดใบพระศรีมหาโพธิ์ร่วงลงมาให้คณะโยมที่ไปด้วยได้เก็บ4-5ใบปลื้มปีติมากภาวนาดีมากผู้คนเยอะแต่การภวานกับสงบวิเวกมาเหมือนไม่มีคนอยู่ตรงนั้นแลยเหมือนนั่งอยู่ในป่าที่เงียบสงัดคนเดียวยังไงยังงั้น โยมที่นั่งภาวนาก็สงบบ้าง ไม่สงบบ้าง สวดธรรมจักรบ้างสลับกันจนครบเวลาก็กลับที่พัก เช้าเตรียมตัวออกเดินทางไปสารนาทป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน สถานที่แสดงปฐมเทศนา

นั่งรถทุลักทุเลเขากำลังทำทางเป็นช่วงๆเลยใช้เวลาอยู่บนรถนานๆมีการบรรยายธรรมเป็นช่วงๆนั่งรถ6-7ช.มแวะเข้าห้องน้ำวัดไทยสารนาทพาคณะโยมไปไหว้พระเจ้าทันใจที่เราเคยมาสร้างไว้ปี2553สูตรพระเจ้าทันใจ คือถือเคล็ดสร้างให้แล้วเสร็จทันอกทันใจในวันเดียวคืนเดียว ช่างก็มีความชำนาญ ก่ออิฐแดง แล้วนำปูนมาทำการปั้นสด ใช้ความเพียร เร่งให้แล้วเสร็จให้เร็วไวที่สุด และผลงานก็ต้องออกมาดีสมบูรณ์ จึงอาสัยความเพียร ขันติของทีมช่าง ส่วนพระญาติโยมก็นั่งสวดอิติปิโส สวดธรรมจักร ไปด้วยในขณะที่ช่างปั้นอยู่

จากนั้นก็เขาชมพิพิธภัณฑ์ที่สารนาท มีหัวเสาสิงห์อโศกขัดสวยงามมาก ที่โดดเด่นมากก็คือพระพุทธรูปหินแกาะที่มีศิลปะ คุปตะ ปางประทานพระธรรมเทศนา แสดงธรรมเทศนางดงามที่สุดกราบสักการะอธิฐาน แล้วเข้าไปที่ ป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน ธัมเมกขสธูป สถานที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดปัญจะวัคคีย์ทั้ง5 เดินเข้าไปสัก3เมตร จะมีเสาหินอโสกตั้งตระหง่าน ตรงข้างมูลคันธกุฏิของพระพุทธเจ้า เลยพาญาติโยมเข้ากราบสักการะพระพุทธเจ้า นั่งสมาธิภาวนาราว30น.สงบเย็นจิตเย็นใจมาก แผ่เมตตาแล้วพาโยมไปตรงที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดพระยะสะ ๆทั้งร้องทั้งวิ่ง ที่นี่วุ่นวายหนอที่นี่ขัดข้องหนอ พระพุทธเจ้าทรงเดินจงกรมอยู่เลยตรัสกับยะสะ ว่าที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้องจงมาหาเราเราจะแสดงธรรมให้ฟัง ยะสะฟังพระธรรมจบสำเร็จคุณธรรมพระโสดาบันบุคคล ครั้นรุ่งเช้าพ่อแม่และภรรยาออกตามหามาถึงป่าอิสิปตนะ พบพระพุทธเจ้าๆแสดงลฤทธิ์ไม่ให้พ่อ แม่ ภรรยาเห็นยะสะ พระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้ฟังอีกยะสะก็สำเสร็จพระอรหันต์ พ่อแม่ภรรยาก็สำเส็รจ พระโสดาบัน แสดงตนเป็นอุบาสกอุบาสิกาคู่แรกของพระพุทธศาสนา สถานที่ตรงนี้จึงสำคัญมาก พาคณะโยมนั่งสมาธิภาวนาฟังธรรมราว40.นดื่มด่ำรถพระธรรมมาก เหมือนนั่งฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่พระยะสะเลย แล้วก็ไปนั่งสวดธัมจักรที่ธัมเมกขะสธูป นั่งสมาธิตรงสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา ธัมจักรกัปวัตนะสูตร นั่งภาวนาน้อมจิตตามพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ยิ่งสว่างสไวเข้าใจธรรมคำสอนเป็นลำดับนั่งภาวนาอยู่เกือบช.มพาโยมเวียนเทียนรอบสธูป3รอบแล้วกราบลากลับที่พัก หลังสรงน้ำแล้วก็สนทนาธรรมกับคณะญาติโยมเกียวกับปฐมเทศนา ย้ำให้เกิดความเข้าใจในข้อธรรมในธัมจักรพอควรแก่เวลาก็เข้าพักผ่อน เช้าฉันมื้อเช้าข้าวต้มกับแป้งจี่ นำ้ซุป แล้วเดินทางต่อไปประเทศเนปาลใช้เวลานานใช้เวลา5-8ช.มสภาพถนนก็ดีบ้างซ่อมบ้างวิ่งรถได้แค่50-60รถเขย่าปวดเมื่อยไปตามร่างกายจนมาถึงด่านต.มอินเดีย ต.มเนปาล ใช้เวลาประมาณมาณ30.นก็ผ่านเข้าประเทศเนปาลมุ่งหน้าไปทีุ่มพินี สถานที่ประสูติพระกุมารสิตทถะ ถึงประมาณบ่าย3โมงกว่าได้เข้ากราบสถานที่ประสูติพระกุมารแล้วออกมานั่งสมาธิที่เสาอโสกอธิฐานให้เกิดดวงตา วิชชาแสงสว่าง ในธรรมภวานนาน.ช.มกว่าๆจิตสงบสว่างสไว โยมที่มาด้วยก็เกิดญานขึ้นมาเห็นอริยะสัจแจ้งการเกิดดับ เหตุ และปัจจัย ได้ดวงตาเห็นธรรมเบื้องต้นณ.สถานที่ประสูติพระกุมารสิตทถะ ชาติในจิตขาดหดสั้นลงมาย่อภพชาติลงมาจิตใจผ่องใสในธรรมความปีติ นำ้ตาไหลสงสารตัวเองที่เวียนเกิดเวียนตายมานับชาติไม่ถ้วนบัดนี้เรามีหนทางแล้วมีมรรคของจิตที่จะเดินแล้วลืมตาดูรอบๆลองเสี่ยงอธิฐานก็เป็นจริงดังอธิฐานยิ่งปลาบปื้มปีติใจมากยิ่งขึ้นนั่งยิ้มอยู่ข้างในเบิกบานตื่นแล้วตื่นจากความหลับหลงไหลมามีความรู้ความเห็นตามเป็นจริงว่าสิ่งใดสิ่งเกิดขึ้น สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมมดา จิตโล่ง ว่างชมสภาวะธรรมราวช.มเลยพากราบลาออกจากลุมพินีจุดประทีปบูชาให้เกิดแสงสว่างกลับถึงที่พักก่อนพักผ่อนก็สนทนาธรรมกันฟังธรรม2.ช.มแล้วพักผ่อน โยมที่ได้สภาวะธรรมตื่นเช้ามาสดชื่นผ่องใสจิตเบิกบาน ทานอาหารเช้า จะไปชมกรุงกบิลพัสส์ พระราชวังของพระเจ้าสุทโธทนะ ปราสาท3ฤดูของเจ้าชานสิตทถะ

ไปเวียนเทียนรอบสถูปพระเจ้าสุทโธทนะ และพระนางสิริมหามายาสัมผัสเย็นปีติ เพราะพระพุทธเจ้าพุทธบิดา พุทธมารดา สำเร็จพระอรหันต์ เลยพอได้ไปเวียนเทียนธิฐานจึงเย็นจิตเย็นใจปลื้มปีติมากๆและระลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ทำกตัญญูเป็นแบบอย่าง แก่เราท่านทั้งหลาย เสร็จแล้วก็กลับมาพัก ช่วงบ่ายเข้าลุมพินี ไหว้พระเจ้าทัน

ใจที่ได้สร้างไว้ที่วัดไทยเนปาลกราบระลึกบุญบารมีที่สร้างพระเจ้าทันใจแล้วก็เข้าลุมพินีถวายผ้าไตรนั่งภาวนาที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ นั่งภาวนานานๆเกือบ2ช.มสงบวิเวกสงัดดีมากคณะโยมที่ไปด้วยนั่งชมธรรมชาติธรรมเบ่งบานอิ่มเอิ่บปีติมาก เย็นกราบลาจากลุมพินีคำ่สนทนาธรรมกันพอควรพักผ่อน เช้าหลังออกเดินทางแต่เช้าผ่านต.มเนปาล ต.มอินเดียใช้เวลาพอควรแล้วเดินทางพักฉันเพลแล้วเดินทางต่อ ถึงกุสินารา เข้ากราบ สธูปปรินิพพาน เวียนเทียนถวายผ้าห่มพระพุทธรูปปางไสยยาส์ แล้วนั่งสมาธิภาวนาเกือบ2ช.มอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุด้วยคณะโยมนั่งสมาธิสงบเย็นมาก

จากนั้นลาไปสักการะมกุฏธพันธุ์เจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ยิ่งสลดสังเวชแม้แต่องค์พระศาสดายังต้องปรินิพพาน น้อมคำสั่งสุดท้ายของพระพุทธองค์จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด น้อมธรรมพุทธโอวาทคำสอนนั้นมาสอนใจอบรมใจของตน และมองไปแต่เบื้องหน้าเห็นแต่ความแตกดับ สลายไปของสิ่งทั้งปวงยิ่งสลดสังเวช แล้วเวียนเทียนกราบอาราชอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุด้วยกราบลาไปสถานที่แบ่งพระบรมสารีริก ที่โพณพราหมณ์ทำหน้าที่แบ่งให้ทั้ง8เมืองเวียนเทียนนั่งสมาธิอธิฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเกือบช.มเทวดยังแวดล้อมในที่ทั้ง3สธูปปรินิพาน มกุธพันธุ์เจดีย์ และที่แบ่งพระบรมสารีกธาตุ ต่างสลดสังเวชใจเวลาผ่านไปแค่20กว่าวันของเวดาอยู่เลย เข้าไปกราบพระเจ้าทันจันใจที่ได้สร้างไว้ที่วัดกุสสาวดีเมืองกุสินารา ปราบปลื้มปีติที่ได้กราบไหว้สักการะสิ่งที่เราได้สร้างถวายกับมือเป็นบุญกุลศลเป็นเหตุปัจจัยเพื่อพระนิพพานพักกุสินารา1คืนคำ่สนทนาธรรมกันแ้วพักผ่อน เช้าออกเดินทางไปพุทธคยา ผ่านเกสิยาสถานที่ปดิษถานบาตของพระพุทธเจ้า แล้วเข้าสักการป่ามหาวัน

วัดที่ประบวชให้ภิกษุณีครั้งแรกในพระพุทธศาสนา ได้ชมเสาอโศกที่ยังสมบูรณ์มีสิงห์หมอบหัวเสา และไปสักการะปาวาเจดีย์สถานที่ที่พระพุทธเจ้าปลงพระชนมายุสังขาร ยิ่งสลดใจมารดลใจพระอานนท์ไม่ได้กราบทูลให้พระพุทธองค์อยู่ต่อ หลังจากนั้น3เดือนพระพุทธเจ้าก็ปรินิพพาน เดินทางถึงพุทธคยาเย็น16-17น

Categories: Uncategorized