ธันวาคม 2567

เช้าวันที่21.ธ.ค.2567เวลา 5-15.นาที เดินขึ้นข้างบนมีคณะโค้ชทันราว50-70ท่านเดินขึ้นบรรไดหน้าศาลาธรรมหลวงพ่อภูเพ็ก ไต่บรรไดหินโบราณแล้วขึ้นบรรไดคอนกรีต เริ่มนับหนึ่งขั้นแรก เด็กโปรยดอกไม้ พ่นน้ำหอม อ.พาขอมามเหษักที่ดูแลวักพระธาตุภูเพ็กแล้วพาโยมขึ้นด้านบนค่อยเดินขึ้นไปแผ่เมตตาไปตีระฆังไปพักเป็นพักๆเป็นระยะขึ้นได้พัก2พักก็มีบังบด นาคราช ยืนแห่แหนสาธุการทั้ง2ข้างทางราวบรรได ต่างอนุโมทนาสาธุการเป็นอันมาก ยิ่งสูงขึ้นไปก็เป็นเทพผู้ใหญ่ จตุโลกบาลทั้ง4 ท้าวสักกะ ท้าวมหาพรหมเป็นลำดับ อ.เลยถามไปเขาตอบกลับมาว่า วันที่15.พ.ย ที่ผ่านมาพระคุณเจ้าทำบุญใหญ่ คณะเทพผู้มเหศักษ์ เลยเปลี่ยนชุดใหม่มาดูแลวัดพระธาตุภูเพ็ก พอขึ้นไปถึงชั้นบนสุดพาโยมนั่งพักริมหน้าผาแสงทองจับขอบฟ้าด้านบูรพาทิศ สีแดงเต็มผื่นฟ้าด้านทิศตะวันออกมีลมพัดเย็นอากาศหนาวพอควรพักพอสดชื่นแล้วพาคณะกราบพระพุทธเจ้า5พระองค์ เดินขึ้นองค์ปราสาท ทางด้านหน้าองค์ปราสาทเข้าไปกราบพระประธานในองค์ปราสาท แล้วกลับออกมานั่งที่แท่นก้อนหินใหญ่ หันหน้าไปด้านตะวันออก ทุกคนไหว้พระแล้วนั่งกันเรียบร้อย เริ่มกำหนดวางจิตเข้าสู่สมาธิ เหมือนแก้วภาชนะที่ว่าง พร้อมที่จะรับพลังจักรวาล พลังบุญ พลังบารมี อธิฐานขอขมากรรม แล้วเข้าสู่สมาธิสักพักพระอาทิตย์ก็ ส่องแสงสว่างไสวรองเรือง เข้ามาที่ท่ามกลางกระหม่ิอม ชำระล้างพลังไม่ดี ล้างโรคภัยไข้เจ็บ ซ่อมสร้างประจุไฟฟ้า จุดตัด รหัส จุดเปลื่ยนต่างๆลงมาหลายสีมากจนสุดท้ายเป็นเพชรเป็นแก้วผลึกใสมาก ก็รวบรวมพลังส่งให้คณะศิษย์ ทุกคนที่มารับพลัง สักพักสมเด็จองค์ปถมและพระพุทธเจ้าๆทุกๆพระองค์เสด็จมาเต็มนภากาศ ประธานพร ประธานพลังให้ทุกๆคนเต็มที่เท่าที่จะรับได้ของแต่ระคน จากนั้นเทพเจ้าแต่ละดวงดาวลงมามอบพลังของแต่ละดวงดาวให้เต็มกำลัง มีพญามังกรทองมาด้วย พญาอนัตนาราชมาด้วย คุรุฤษี ชีผ้าขาว อายุเป็นกัปล์ๆมาประสิทธิ์ด้วย จากนั้นบริเวณปราสาทพระธาตุภูเพ็กก็ สว่างจ้า สีทองอร่ามแล้วเป็นแก้วเพชรสว่างสไว ช่วงนั้นนั่งภาวนาจิตดื่มด่ำ เข้าสู่สมาธิลึกนึ่งไปสัก20นาที พระสมเด็จองค์ปถมประธานพร ให้เรา และคณะลูกศิษย์ทุกคน เราก็แผ่ออกไปไม่มีประมาณให้หมดทุกภพภูมิมิติ ต่างกันมารับมากมายเพราะเป็นกำลังขององค์สมเด็จองค์ปถม ส่วนการเปิดจักกระก็แล้วแต่ภาครับของแต่ละคน วาระของแต่ละคนแต่กำหนดดูก็ได้เปิดจักรกระกันทุกคน1จุดบ้าง3-4บ้าง บางคน7ก็มี ก็อนุโมทนาสาธุกับคณะศิษย์ทุกคนที่มารับพลัง สิ่งที่เรามาทำนั้นพิเศษมาก เป็นเชื้อเป็นหน่อเนื้อของอริยะจิตในภายภาคหน้าเหมือนมารับขัน พระกรรมฐาน กลับไปก็จะมีกำลังในการนั่งสมาธิภาวนา มีความเพียร วิริยะอุตสาหะมากขึ้น เพราะได้มาตั้งที่เสาค้ำจักรภพเสาค้ำจักรวาล ความตั้งมั่น เพราะกำลังของพระพุทธเจ้า เทพ พรหม มหาฤษี มหาโยคี และเทพเจ้าดวงดาวต่างอีก ยิ่งมีความพิเศษมากเลยทีเดียว ที่เขียนนี่เพื่อให้คณะลูกศิษย์ได้รับรู้ที่เราได้มาทำมาปฏิบัติกันนั้น มีผลทั้งกับตัวเราญาติมิตร ปู่ ย่า ตา ยาย บิดามารดาสรรพวิญญานด้วย มีผลทั้งโลกุตรด้วย จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ และนำไปนั่งปฏิบัติต่ออยู่ที่บ้านของเรา หรือเวลาทำอะไรก็ให้มีสติ ประคองตั้งจิตไว้เสมอๆ นั่นคือการปฏิบัติธรรม ส่วนจะได้อะไร ถึงอะไรนั้น เป็นสันทิฏฐิโก อันผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นได้เอง ทำให้ถึง ก็ถึงธรรม และใครที่มามีประสบการณ์อะไร ก็เล่าเป็นวิทยาทาน ในกลุ่มของโค้ชทัน ไม่ได้อวดแต่ให้เป็นแนวทางพาดำเนินจิต ให้เป็นมรรค เป็นผล อริยะมรรค อริยะผลยิ่งๆขึ้นไปส่วนคนที่ของเรื่องหน้าที่การงานธุรกิจ ย่อมสำเร็จตามคำขอแน่นอน พลังบุญ พลังจักรวาล

26ธ.ค2567 5.น. ออกเดินทางจากวัดพระธาตุภูเพ็ก ไปงานนิมนต์ ที่วัดพุทธชินวงศ์ อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ใช้เส้นทางสกลนคร อุดร หนองบัวลำภู เลย นครไทย อุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา ใช้เวลาถึงก๊วานพะเยา17กว่า เดินลงชมก๊วาน แล้วเข้ากราบสักการะพระเจ้าตนหลวงที่วัดศรีโคมคำนั่งสมาธิภาวนาพักนึง แล้วเข้าที่พัก ที่พักก็เงียบสงบดี สรงน้ำ นั่งภาวนาพักผ่อน สายฉันภัตตาหาร ไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ ทำธุระเสร็จกลับที่พัก เย็นสรงน้ำ นั่งสมาธิภาวนา เช้า28.ธ.ค เวลา10.20น.ฉันภัตตาหารเพลมีโยมจิ๋มกับพ่อบ้าน โยมแม่ พี่ชายพานั่งฉันริมก๊วานพะเยา ฉันเสร็จไปไหว้พระธาตุจอมทอง พระบรมธาตุเก่าแก่บนม่อนดอย มีคณะโยมมากราบโยมสุภาพรณ์ กราบสนทนาสักพัก โยมกราบลาเราก็เดินทางไปวัดม่อนพญานาค เดินทางสัก30กว่านาที ก็ถึงวัด วัดกำลังสร้างพระญานาคองค์ใหญ่มากรอบภูเขา มีถ้ำ มีน้ำตก มีพระเปิดโลก มีพระมารับไปพักที่กุฏิรับรอง ฉันน้ำแล้วนั่งภาวนา เดินจงกลม ริเวลาเข้าร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมรูปพระแม่โสมาสาวิกานาคเทวี มีคณะสงฆ์ พระครูไท เป็นเจ้าอาวาส คณะโยมรับศีลถวายทาน แล้วเข้าสู่บริเวณจัดงานเททองหล่อพระบรมรูปพระแม่โสมา ทางเจ้าพิธีบวงสรวงบอกกล่าว มีลูกหลานฟ้อนรำถวาย แล้วได้เวลานำทองนำฤกษ์ ใส่ลงในเบ้าหลอม ครบทั่ง6เบ้าคณะสงฆ์ สวดชะยะมงคลคาถา พระมหาเถระอธิฐานจิต หลอมรวมรูป นามอาการ32 ธาตุ4ขันธ์5 อายตะนะ12 ธาตุ18 อิทรีย 22 ประจุรูปนามขึ้นในโลหะธาตุก่อเกิดเป็นพระบรมรูปพระแม่โสมาขึ้นในวัดม่อนพญานาค สำเร็จ องค์ขึ้น เพื่อแผ่พระบารมีอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาเพราะพระแม่องค์ท่านเป็นพุทธะมามะกะอุปถัมภ์พระพุทธศาสนามาทั้งวัตถุทาน และปฏิบัติบูชานำพาเหล่าประสกนิกรอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนามาจวบจนถึงปัจจุบันจึงเป็นการประกาศเกีรยติคุณประวัติของพระแม่ที่จะให้ลูกหลานสายญานพระแม่ได้ทำประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าสืบไป ส่วนสำคัญเน้นไปที่การปฏิบัติภาวนา นำจิตให้หลุดพ้นจากอาสวะมุ่งมรรคผลนิพพานเป็นแก่นเป็นหัวใจของพระพุทธธรรมคำสอน มีทางมรรคทางผลนั่นแหละที่จะเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ สูงสุดในชีวิตที่เกิดมาครั้งหนึ่ง ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการดำรงชีวิต ส่งท้ายปีงานใหญ่ คืองานประหักประหารกิเลสเพื่อข้ามพ้นวัฏสงสาร เข้าสู่พระนิพพาน สุดท้านปลายทางของทุกจิต วิญญาณ คือไม่กลับมาอีก

Categories: Uncategorized